10 อันดับ e-commerce ในไทย 2022

10 อันดับ e-commerce ในไทย 2022

10 อันดับ e-commerce ในไทย 2022 / เทรนด์การค้าขายออนไลน์ 2022 โดย appleinformer เมื่อถึงช่วงปลายปีของทุก ๆ ปี ผมก็จะทำการคาดการณ์แนวโน้มของการค้าออนไลน์ในปีต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับปี 2565 จะเป็นอย่างไรนั้นต้องมาดูกันเพราะปีนี้ออนไลน์เข้ามามีบทบาทสูงมาก

e-commerce คืออะไร

E-Commerce ย่อมาจากคำว่า Electronic Commerce แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทำธุรกิจโดยซื้อขายสินค้าหรือโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่นิยมคือ วิทยุ โทรทัศน์ และที่มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบันก็คืออินเทอร์เน็ต โดยสามารถใช้ทั้งข้อความ เสียง ภาพ และคลิปวิดีโอในการทำธุรกิจได้ การทำธุรกิจแบบ E-commerce สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินการได้เป็นอย่างดี

ประเภทของ E-Commerce
  1. ธุรกิจกับผู้ซื้อปลีก หรือ บีทูซี (B-to-C = Business to Consumer) คือ ผู้ซื้อปลีกซื้อสินค้าจากผู้ขายผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การขายเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เป็นต้น
  2. ธุรกิจกับธุรกิจ หรือ บีทูบี (B-to-B = Business to Business) คือ ผู้ประกอบการสองฝ่ายทำการติดต่อซื้อขายกัน โดยการขายในที่นี้เป็นการขายส่ง ซึ่งทำการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต
  3. ธุรกิจกับรัฐบาล หรือ บีทูจี (B-to-G = Business to Government) คือ ธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เช่น การจัดจ้างของภาครัฐโดยประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของรัฐเพื่อลดค่าใช้จ่าย
  4. รัฐบาลกับรัฐบาล หรือ จีทูจี (G-to-G = Government to Government) คือ การติดต่อกันระหว่างหน่วยงานในรัฐบาล เป็นการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกระทรวง
  5. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค หรือ ซีทูซี (C-to-C = Consumer to Consumer) คือ การติดต่อซื้อขายระหว่างผู้บริโภคด้วยกันเอง กล่าวคือ ผู้บริโภคที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจประกาศขายสินค้าของตนเอง และผู้บริโภคอีกคนก็สนใจสั่งซื้อไป การประกาศขายนี้ส่วนใหญ่ทำผ่านอินเทอร์เน็ตเพราะมีพื้นที่ให้ติดต่อซื้อขายได้สะดวก รวมถึงหาคนที่มีความสนใจเหมือนกันได้ง่ายอีกด้วย
  6. ภาครัฐกับประชาชน หรือ จีทูซี (G-to-C = Government to Consumer) คือ การให้บริการจากทางภาครัฐผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต เช่น การคำนวณและเสียภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต การดาวน์โหลดแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียนต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์

ทำไมจึงควรทำ E-Commerce?

10 อันดับ e-commerce ในไทย 2022 ทุกวันนี้คนเข้าถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลาย สะดวกรวดเร็วในโลกออนไลน์ และการใช้อินเทอร์เน็ตถือได้ว่าเป็นกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล ค้นหาข้อมูล เช็คอีเมล ดูทีวี หรือฟังเพลงออนไลน์ หลายธุรกิจวางใจให้คุณทำอีคอมเมิร์ซมากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังมีข้อดีและประโยชน์อีกมากมายสรุปได้ดังนี้

  1. ไม่ต้องมีหน้าร้าน สามารถโชว์ตัวอย่างสินค้าเป็นรูปหรือคลิปวิดีโอบนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียได้
  2. ไม่ต้องใช้พนักงานขาย สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ พร้อมระบบที่สามารถทำการซื้อขายได้อัตโนมัติ หรือติดต่อทางร้านได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เปิดขายและรองรับลูกค้าได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  3. เพิ่มโอกาสในการขาย ร้านค้ามีโอกาสเข้าถึงทุกคนที่มีอินเทอร์เน็ตได้ จึงสามารถมีลูกค้าได้จากทั้งประเทศและทั่วโลก หมดปัญหาเรื่องการเดินทาง
  4. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ จึงสามารถนำเงินไปลงทุนในด้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้ เช่น การขยายธุรกิจ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
  5. ทำการตลาดได้แม่นยำและสามารถวัดผลได้ สามารถใช้เว็บไซต์ขายสินค้าและโชเชียลมีเดียเก็บข้อมูลลูกค้ารวมถึงผู้เยี่ยมชม และนำไปใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ได้ตรงเป้าหมาย อีกทั้งยังมีระบบที่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพได้ซึ่งต่างจากการลงโฆษณาในสื่อออฟไลน์ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น

10 อันดับ e-commerce ในไทย 2022

1. อีคอมเมิร์ซจะกลายเป็นช่องทางหลักของธุรกิจ

ปีนี้อาจจะยังไม่ค่อยชัดมากเท่าไหร่ แต่ปีหน้าจะชัดมากว่าอีคอมเมิร์ซจะกลายเป็นช่องทางหลักในแง่ของบางธุรกิจยอดขายต่าง ๆ บางกลุ่มอีคอมเมิร์ซอาจจะไม่มาก แต่เมื่อดูอัตราการเติบโตผมบอกได้เลยว่าน่าจะโตขึ้นอีกมหาศาลเลยทีเดียวในเชิงของการขาย

2. JSL ปีหน้าจะเริ่มทำกำไรได้แล้ว

อย่างช่วงกลางปีลาซาด้าได้ส่งงบระหว่างกาลไปที่กระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันรายได้ของเขาอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท กำไรควรจะเกือบ 200 ล้าน แต่ชัดเจนว่าสงครามยังคงมีอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม บางรายเริ่มเลิกทุ่มเงินและหันมาสนใจสร้างรายได้จากธุรกิจมากขึ้น

กำไรของตลาดแตกต่างจากลาซาด้าหรือช้อปปี้ Shopee มาจากค่าคอมมิชชั่นจากการขายทุกครั้งที่ร้านเปิด และต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นและซื้อโฆษณาภายในเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม ลาซาด้านำเสนอโมเดลจากประเทศจีนถึงสองโมเดลด้วยกัน

รูปแบบแรกของ Taobao เป็นตลาดของ Lazada ทั่วไปที่ทำรายได้จากการโฆษณา ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายสินค้าไม่เสียค่านายหน้า อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเพิ่มยอดขาย คุณอาจต้องซื้อโฆษณาเพิ่ม

อีกรุ่นหนึ่งคือ LazMall ซึ่งมีให้สำหรับเจ้าของแบรนด์เท่านั้น คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน 2-10% ขึ้นอยู่กับประเภทของหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ยังต่ำกว่ายอดขาย 30% ในช่องทางค้าปลีกทั่วไป ค่าธรรมเนียมสำหรับพนักงานที่ไปร้านค้า ฯลฯ

รุ่นใหม่ออนไลน์เริ่มสนใจเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ 1. Margin หรือค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของช่องทางการขายนั้นค่อนข้างต่ำในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ดังนั้นเจเอสแอลจึงเน้นที่แบรนด์สินค้าหรือโรงงานเพราะกลุ่มนี้จ่ายน้อยและเห็นยอดขายเร็วเมื่อลงโฆษณาออนไลน์

สิ่งนี้จะเพิ่มรายได้ให้กับผู้ให้บริการตลาด แบรนด์ต่างๆ หันมาโอนเงินทางออนไลน์มากขึ้นจากการชำระเงินผ่านสื่อต่างๆ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ประกอบการตลาดเริ่มทำเงินได้มากขึ้นและเริ่มแสดงสัญญาณของกำไร

3. สงครามการเป็น Super App

หรือเพียงแค่แอปที่คุณต้องเปิดทุกวัน นี่คือแอปพลิเคชันที่มีบริการทั้งหมดอยู่ภายใน เช่นเดียวกับ Super App คือ Grab ที่คุณสามารถสั่งอาหารได้ ฉันสามารถส่งของ ตอนนี้คุณสามารถสั่งซื้อสินค้าจากซุปเปอร์มาร์เก็ต มีกระเป๋าเงิน ยืมเงิน หรือทรูมันนี่กลายเป็นซุปเปอร์แอพไปแล้ว

Super App เริ่มเบ่งบานในไทยแล้ว ธนาคารต่างๆ เริ่มพยายามสร้างสุดยอดแอพขึ้นมาเอง ทุกคนพยายามขโมยเวลาของลูกค้าและให้พวกเขาอยู่ในแอปของคุณให้นานที่สุดหรือบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา AirAsia ประกาศว่าจะกลายเป็น Super App แทนที่จะเป็นแค่สายการบิน โดยประกาศซื้อ GET ซึ่งเป็นบริการส่งอาหารที่รวมอยู่ใน AirAsia เพื่อให้บริการจัดส่งง่ายขึ้น

และอีกอย่างที่ผมว่าน่ากลัวมากคือ Shopee ตอนนี้มีทุกอย่างแล้วและก้าวร้าวมาก ก้าวต่อไป ShopeeFood Shopee Travel นี่คือเทรนด์อีคอมเมิร์ซในปีหน้า เราเริ่มเห็นว่าทุกคนพยายามที่จะดำดิ่งสู่ super app สร้างเฉพาะแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้สำหรับ

หรือเช่น Flash Express นอกเหนือจากการขนส่ง ลองกระโดดจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำด้วย

คำแนะนำจากมุมมองของผู้ประกอบการคือไปกับพวกเขาทั้งหมด ยิ่งเรามีโปรโมชั่นมากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องใช้ประโยชน์จากการตลาดของเรามากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการจัดส่งฟรี คุณควรเข้าร่วม นี่คืองบประมาณที่สามารถใช้เพื่อกระตุ้นการตลาด

4. LIVE Commerce

การขายของออนไลน์ผ่านการถ่ายทอดสด ในปีหน้าจะเป็นการขายทางออนไลน์แบบซีเรียสมากขึ้น คือจะเริ่มเจอพ่อค้าแม่ค้ามืออาชีพที่ขายไลฟ์จนเป็นอาชีพจริง ๆ เรียกว่าเป็น Professional Live Commerce และขายได้ในระดับหลายร้อยล้าน เช่น พิมรี่พาย หรือสอดอStyle ผมใช้คำว่า live commerce + OEM คือเมื่อก่อนเราอาจจะเอาของคนอื่นมาขาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว เมื่อไลฟ์บ่อย ๆ มีฐานลูกค้ามีคนติดตามแล้ว ก็หันจ้างผลิตสินค้าเลย ทุกคนเริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง เพราะอาจได้กำไรมากกว่าเดิม 100-200%เลย ใครที่มีสินค้าแล้วอยากไปจ้างเขาเดี๋ยวนี้เขาจะไม่เอาแล้วครับเพราะเขาขายของเขาเองกำไรมากกว่าจริง ๆ ผมว่าน่าจะเป็นจุดหนึ่งในการขายของออนไลน์ด้วยเหมือนกัน

5. Combine and Automated e-Commerce

วิธีการซื้อขายแบบใหม่ ในอนาคต ช่องทางการขายทั้งหมดจะหลอมรวมกัน รวบรวมไว้ในช่องเดียวกัน การขายออนไลน์ การขายทีวี ทั้งหมดสามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ว่าช่องทางใดมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่องทางใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด?

หากคุณสามารถรวมกันได้ คุณสามารถรวมข้อมูลทั้งหมดของคุณไว้ในที่เดียว ต่อไปนี้เป็นแบบอัตโนมัติ เช่น สามารถเชื่อมต่อได้โดยอัตโนมัติ: สามารถใช้ Chatbot เพื่อช่วยเหลือเกี่ยวกับระบบการเรียกเก็บเงิน ใบแจ้งหนี้ การรวบรวมข้อมูล และอื่นๆ การขายในปัจจุบันรวดเร็วและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น

ทักทายผู้ขายและคุณอาจได้รับการตอบกลับทันที กล่าวโดยสรุปคือ ระบบการจัดการการขายออนไลน์มีเครื่องมือมากมายที่ทำงานได้ง่ายขึ้นและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น และอันที่จริงจะมีมากขึ้นในปีนี้

Ecommerce-Trends-2022

6. Retail Automation

การค้าปลีกไร้คนขับอัตโนมัติ ฉันคิดว่าในปีหน้าจะมีตู้ขายของอัตโนมัติและตู้ขายของอัตโนมัติมากขึ้น แต่ฉันต้องบอกว่าตอนนี้มีตู้ขายของอัตโนมัติมากมายและราคาไม่แพง ตอนนี้คุณสามารถซื้อตู้เหล่านี้และขายสินค้าของคุณได้แล้ว

ราคาของเครื่องหยอดเหรียญเหล่านี้เป็นการซื้ออย่างรวดเร็วเมื่อคุณเปรียบเทียบราคาหนึ่งเครื่องต่อคนต่อปี และสิ่งที่ดีคือคุณไม่ได้รับเงิน ไม่ต้องมีโบนัส ขายได้ตลอด 24 ชม. เป็นเครื่องเก็บเงินอย่างเดียวมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ หากคุณอยู่ในธุรกิจขายของอยู่แล้ว ลองวิเคราะห์ว่าคุณสามารถใช้ตู้เหล่านี้เพื่อขายของได้อย่างไร

7. การขายของออนไลน์ในปีหน้าจะดุมากขึ้น

ก้าวร้าวมากขึ้น งบประมาณเท่าเดิม ยอดขายน้อยลง เพราะอย่างที่ฉันพูดไปในข้อแรก อีคอมเมิร์ซจะกลายเป็นบรรทัดฐาน ผู้คนจำนวนมากขึ้นกระโดดเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อคุณเริ่มใช้งบประมาณคุณต้องใช้งบประมาณนั้นเพื่อกระตุ้นสิ่งต่างๆ งบประมาณเริ่มล้มเหลว การแข่งขันที่มากขึ้นของตลาดโฆษณา การแข่งขันขายของออนไลน์จะเข้มข้นขึ้นอีก

นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณเตรียมใจได้ แน่นอนว่าฝั่งทีมเราต้องปรับตัว เราต้องการบุคลากรที่มีทักษะมากขึ้นเราต้องเพิ่มความรู้ใหม่ให้กับทีมงานเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ , ยอดขายลดลง

และอีกสิ่งหนึ่งคือเทคโนโลยีที่ติดตามลูกค้า เช่น การใช้คุกกี้และข้อมูลส่วนตัวเพื่อติดตามผู้คน เช่น Facebook และ Apple ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ใช้งานยากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มสูญเสียความแม่นยำ

8. Crypto Commerce

เป็นคำใหม่ที่ฉันต้องการใช้ Crypto Commerce คือการใช้สกุลเงินเสมือนร่วมกับการซื้อขายจริง และมีการใช้สกุลเงินเสมือนจริงในช่วงหนึ่งหรือสองปีที่ผ่านมา แต่จะใช้จากมุมมองของการลงทุน เดาว่าฉันไม่ได้ซื้อของ อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า เราจะเริ่มเห็นการใช้ cryptocurrencies เพื่อซื้อสิ่งต่างๆ ในปีนี้ เราเริ่มเห็นผู้คนใช้สกุลเงินเสมือนจริงในการซื้อสิ่งต่างๆ เช่น การซื้อรถยนต์โดยใช้สกุลเงินเสมือนจริง

ตอนนี้ชุมชน crypto กล่าวว่าตอนนี้สามารถซื้อเสื้อผ้าโดยใช้ crypto ได้ สตาร์ทอัพบางแห่งที่ฉันลงทุนบอกว่าพวกเขาจ้างทนายความหรือจ่ายเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับนโยบายของธนาคารแห่งชาติ ฉันต้องบอกว่ายังไม่สนับสนุนการนำ cryptocurrencies มาใช้จากมุมมองของธุรกรรม แต่ในปีหน้า ผมคิดว่าเราจะได้เห็นมันในบางอุตสาหกรรมที่ยังไม่แพร่หลาย กลุ่ม

9. B2C จะเริ่มเหิมเกริมมากกว่าเดิม

เพราะทุกแบรนด์ทำหมด บรรดาพวกแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เริ่มหันมาขายในมาร์เก็ตเพลส เปิดร้านขายเอง ส่งเอง และขายแข่งกับดีลเลอร์ต่าง ๆ ด้วยซ้ำไป อนาคตของตัวกลางที่เคยเตือนไว้เริ่มชัดแล้วว่าบทบาทความสำคัญจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ และปีหน้าจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออีคอมเมิร์ซเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ

10. Local Business Decline

เมื่อ 1-9 มารวมกันจะเกิดการที่ธุรกิจท้องถิ่นที่อยู่ต่างจังหวัด ร้านโชห่วย ร้านค้าขนาดเล็ก ฯลฯ จะเริ่มเห็นการหดตัวในปีหน้า เพราะผู้บริโภคจะเริ่มคุ้นชินกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้น คนต่างจังหวัดจะเริ่มเปลี่ยนมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น จะกระทบกับธุรกิจค้าปลีกทันทีเลย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ ต่อไปจะมีผลกระทบมากขึ้นเลยทีเดียว ร้านเหล่านี้จะมีขนาดเล็กลง ยอดขายจะตกลงด้วยเหมือนกัน